เรียนไม่รู้จบ โรงเรียนนักสืบ
โดย : ชาธิป สุวรรณทอง
คงจะมีคนไม่น้อยที่เคยจินตนาการเห็นตัวเองในบทบาทของนักสืบเอกชน ผู้กระโดดเข้าไปแสวงหาข้อมูล หลักฐานต่างๆ สำหรับทำความจริงให้ปรากฏ แต่จะมีกี่คนที่พาตัวเองเข้าสู่อาชีพนักสืบเอกชนได้จริงๆ ถ้ามีความมุ่งมั่นพร้อมอยู่แล้ว การเริ่มต้นด้วยการไปเรียนวิธีการเป็นนักสืบอย่างเป็นระบบน่าจะเป็น ทางเลือกที่ดี
คงจะมีคนไม่น้อยที่เคยจินตนาการเห็นตัวเองในบทบาทของนักสืบเอกชน ผู้กระโดดเข้าไปแสวงหาข้อมูลหลักฐานต่างๆ สำหรับทำความจริงให้ปรากฏ แต่จะมีกี่คนที่พาตัวเองเข้าสู่อาชีพนักสืบเอกชนได้จริงๆ ถ้ามีความมุ่งมั่นพร้อมอยู่แล้ว การเริ่มต้นด้วยการไปเรียนวิธีการเป็นนักสืบอย่างเป็นระบบน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี Dr. Surachai Vivadhnajat แห่ง International Detective (Thailand) เริ่มอาชีพนักสืบจากการไปศึกษาด้านปรัชญาที่สหรัฐอเมริกา แต่ความที่ชอบถ่ายภาพ ชอบเล่นวิทยุสื่อสาร ชอบเรียนการต่อสู้ป้องกันตัว ทำให้คิดได้ว่าการเป็น 'นักสืบ' คือการรวมเอาสิ่งที่ชอบทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน เขาจึงใช้เวลาบางส่วนไปเรียน 'วิชานักสืบ' จากหลายสถาบันในสหรัฐอเมริกา และนำความรู้ที่ได้รับกลับมาเปิดหน่วยงานนักสืบเอกชนรวมทั้งโรงเรียนนักสืบในเมืองไทยด้วย Dr. Surachai เล่าว่า งานนักสืบเอกชนในเมืองไทยมีมานานแล้ว แต่ยังไม่ประกาศตัวชัดเจน วงการนักสืบในบ้านเราส่วนใหญ่อาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ การลองผิดลองถูก บางส่วนก็อาศัยจากการทำงานเป็นทหารตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการสั่งสม แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลาขนาดนั้นก็สามารถจะหาความรู้เกี่ยวกับการเป็นนักสืบจากตำราที่คนรุ่นก่อนๆ เขียนไว้ เขาจึงได้รวบรวมความรู้ที่ได้เรียนมา ตำรานักสืบของสถาบันต่างๆ ในสหรัฐอเมริกามาสรุปเป็นหลักสูตรนักสืบที่เหมาะสมกับสังคมและกฎหมายไทย "พอกลับมาบ้านเราเห็นว่าจริงๆ เรามีบริษัทนักสืบค่อนข้างเยอะ ผมก็เลยคิดว่าน่าจะเอามาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ให้อาชีพนักสืบมันมีหลักที่เป็นวิชาการจริงๆ ก็เลยทำหลักสูตรการเรียนเพื่อเป็นนักสืบเอกชนขึ้นมา ก็จะเริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของงานนักสืบ จากนั้นก็พยายามแบ่งออกมาเป็นวิชาต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับงานนักสืบ โดยปรับเนื้อหาให้เข้ากับกฎหมายไทยด้วยเพราะกฎหมายสหรัฐกับบ้านเราไม่เหมือนกัน" หลักสูตรการเรียนการสอนของ International Detective (Thailand) แบ่งออกเป็น 'หลักสูตรพัฒนานักสืบเอกชน' ว่าด้วยความรู้ทั่วไปของนักสืบเอกชน แหล่งข้อมูลเชิงลึก เทคนิคในการสืบสวน กลยุทธ์การหาข่าว การบันทึกผลและการเขียนรายงาน การใช้อุปกรณ์การสืบสวน หากต้องการจะเรียนให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีกก็จะเป็น 'หลักสูตรพัฒนานักสืบเอกชนระดับกลาง' การสืบสวนประเภทต่างๆ การระวังภัยและวิธีการป้องกันตัวสำหรับนักสืบ การสัมภาษณ์และเจรจาต่อรอง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง นิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะไปถึง 'หลักสูตรพัฒนานักสืบเอกชนระดับสูง' เทคโนโลยีกับงานสืบสวนติดตาม / การป้องกัน ทฤษฎีและวิธีการของเครื่องจับเท็จ เทคโนโลยีสำหรับงานรักษาความปลอดภัย แต่ละหลักสูตรมีระยะเวลาในการอบรม 60 ชั่วโมง เมื่อเรียนจบจะมีการสอบวัดผลเพื่อรับประกาศนียบัตรของสถาบันฯ และสามารถเรียนในหลักสูตรที่สูงขึ้นต่อไปได้ "การเรียนของเราจะเริ่มจากการเรียนในห้องเรียน ซึ่งจะเป็นการยกกรณีตัวอย่างจากการทำงานจริงขึ้นมาวิเคราะห์กัน จากนั้นก็จะมีการออกภาคสนามซึ่งจะให้นักเรียนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริงที่เราทำอยู่ เมื่อจบ เบื้องต้นก็สอบวัดผลถ้าผ่านก็ถือว่าจบหลักสูตร ถามว่ามาเรียนได้วุฒิของเราเอาไปทำอะไรได้บ้าง ที่แน่ๆ คือสำหรับคนที่อยากจะเป็นนักสืบอาชีพตรงนี้ช่วยได้แน่นอน นอกจากนี้เรามีการเชื่อมโยงเป็นสาขากับวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา คนที่มาเรียนกับเราก็สามารถจะเลือกรับปริญญาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐก็ได้ แต่ต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามระเบียบของมหาวิทยาลัย" นอกจากหลักสูตรนักสืบโดยตรง สถาบันแห่งนี้ยังเตรียมหลักสูตรข้างเคียงไว้ด้วย ได้แก่ 'หลักสูตรเทคนิคการถ่ายภาพสำหรับงานสืบสวน' ซึ่งจะเป็นการเรียนเกี่ยวกับเทคนิคการเลือกกล้องและอุปกรณ์อื่นๆ การเลือกฟิล์มและสื่อการบันทึกข้อมูลแบบต่างๆ เทคนิคการถ่ายภาพ เทคนิคการแก้ไขภาพ กฎหมายสำหรับการถ่ายภาพ แนวสืบสวน ฯลฯ 'หลักสูตรป้องกันตัว สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ปืนมาก่อน' หลักสูตรปืนพก รีวอลเวอร์ (ลูกโม่) และเซมิออโตเมติก หลักสูตรการใช้ปืนลูกซอง เน้นให้ผู้เรียน มีความสามารถในการใช้อาวุธปืนอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้ง 'หลักสูตรต่อสู้ - บอดี้การ์ด' สำหรับผู้มีพื้นฐานมาแล้ว เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการใช้อาวุธปืนในการป้องกันตนเองและคนที่อยู่ในความคุ้มครองได้อย่างปลอดภัย Dr. Surachai มองว่า อาชีพนักสืบเอกชน เป็นได้มากกว่าการติดตามกรณีชู้สาว แต่ยังรวมไปถึงการค้นหาข้อมูลหลักฐานเพื่อใช้ในการพิสูจน์ความจริงในกระบวนการยุติธรรม ควบคู่ไปกับการทำงานของฝ่ายกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง "ที่ผ่านมาเราจะได้ยินว่าการพิสูจน์หลักฐานต้องทำโดยตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จริงๆ แล้วมีกฎหมายว่าเอกชนสามารถหาหลักฐานสำหรับการเจรจาหรือการฟ้องร้องคดีได้ สามารถหาพยานผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับคดีมาให้ความเห็นได้ นักสืบเอกชนจึงทำงานไปด้วยกันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการช่วยกันเติมเต็มกระบวนการยุติธรรม" |